บีโอไอเผยคำขอส่งเสริมไตรมาสแรกกว่า 7 หมื่นล้าน จำนวนโครงการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อีอีซียังเนื้อหอม

13 เมษายน 2563

บีโอไอเผยยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนช่วงไตรมาสแรกปี 2563 รวม 378 โครงการ มูลค่า 71,380 ล้านบาท ต่างชาติลงทุนไทย 27,425 ล้านบาท นำโดยญี่ปุ่น จีน และฮ่องกง ยอดลงทุนในอีอีซี 47,580 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 67 ของมูลค่าการขอรับส่งเสริมทั้งหมด
     นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บอร์ดบีโอไอ ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า บีโอไอได้รายงานภาวะการส่งเสริมการลงทุนช่วง 3 เดือนของปี 2563 (มกราคม-มีนาคม) โดยมียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวมทั้งสิ้น 378 โครงการ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 368 โครงการ ขณะที่มีมูลค่าการลงทุนรวม 71,380 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 44 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีมูลค่า 128,460 ล้านบาท เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นโครงการขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยมูลค่าเงินลงทุนสูงสุดอยู่ในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ มูลค่า 10,620 ล้านบาท ตามด้วยอุตสาหกรรมเกษตรและแปรรูปอาหาร มูลค่า 5,690 ล้านบาท และยานยนต์และชิ้นส่วน มูลค่า 2,400 ล้านบาท

     สำหรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่าการขอรับส่งเสริมรวม 27,425 ล้านบาท โดยญี่ปุ่นมีการลงทุนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 โดยมีมูลค่าเงินลงทุนรวม 7,402 ล้านบาท อันดับ 2 คือ จีน มีมูลค่าเงินลงทุน 6,510 ล้านบาท และอันดับ 3 ฮ่องกง มีมูลค่าเงินลงทุน 3,458 ล้านบาท ทั้งนี้ ยอดการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่ารวม 47,580 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 67 ของมูลค่าการขอรับส่งเสริมทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าอีอีซียังเป็นพื้นที่เป้าหมายของนักลงทุนส่วนใหญ่
 

More Informations
                                                              

No.42_2563TH.pdf                                              investmentstat2020.pdf